Article03          ฤดูฝน หรือช่วงที่มีฝนตกบ่อยมักเป็นช่วงเวลาที่ต้นไม้เกิดความเสียหายมากที่สุด เพราะนอกจากจะมีฝน น้ำขัง แล้วก็ยังมีพายุลมแรง ฟ้าผ่า ซึ่งอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ เราจึงต้องดูแลต้นไม้ให้พร้อมรับมือกับหน้าฝนที่กำลังมา โดยสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ

          1 ต้องตัดแต่งกิ่ง หากเป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่จะต้องตัดแต่งกิ่งออกด้วยเพราะ กิ่งและใบที่เยอะนั้นจะรับน้ำได้มากทำให้หนักจนกิ่งฉีกขาด หรือโดนพายุพัดจนกิ่งฉีกขาดได้ จึงต้องตัดแต่งให้มีน้อยๆ ไว้ก่อน

          2 ต้องไม่มีน้ำขัง ปรับพื้นที่บริเวณโคนต้นไม้ให้ดี อย่าให้มีน้ำขัง เพราะนั่นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้รากเน่า และต้นไม้ก็จะเหี่ยวเฉาตายไปในที่สุด

          3 ฉีดยากำจัดเชื้อรา ความชื้นสูงในช่วงหน้าฝนทำให้เชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ดี และอาจทำความเสียหายกับต้นไม้ได้ จึงต้องทำการฉีดยาฆ่าเชื้อราเอาไว้ก่อน

          4 กำจัดวัชพืช ในน้าฝนวัชพืชจะโตไวมาก ทำให้แย่งสารอาหาร และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่อาจติดต่อมายังต้นไม้ได้ ทำให้ต้นไม้อ่อนแอและอาจตายได้ จึงต้องหมั่นกำจัดวัชพืชอยู่เป็นประจำ

          5 พรวนดินใส่ปุ๋ย การพรวนดินจะช่วยให้รากต้นไม้ได้รับออกซิเจน และควรใส่ปุ๋ยก่อนพรวนดินเพื่อให้ปุ๋มเข้าไปในดิน จะได้ไม่ถูกน้ำชะล้างออกไปไม่เกิดประโยชน์ต่อต้นไม้

          6 ค้ำยันให้ดี โดยเฉพาะต้นไม้ที่เพิ่งปลูกใหม่ หรือต้นไม้ใหญ่ที่เพิ่งนำมาตั้ง จะต้องตรวจสอบการค้ำยันให้มั่นคงแข็งแรงพอที่จะรับมือกับลมแรง และพื้นดินที่เปียกอ่อนได้ ไม่ล้มลงมาได้ง่ายๆ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ www.thaieditorial.com

Article02          ใครที่มีพื้นที่บ้านเล็ก หรืออยู่ตึกคอนโด ทาวน์เฮ้าส์ที่มีพื้นที่จำกัด แต่อยากจะมีสวนสวยแบบเล็กๆ เอาไว้พักผ่อนสายตา หรืออยากใกล้ชิดธรรมชาติบ้าง แต่ด้วยพื้นที่จำกัดจึงมีพื้นที่เพียงน้อยนิดที่พอจะจัดสวนได้ อย่างเช่นพื้นที่ข้างบ้าน หน้าบ้าน มุมบ้านเล็กๆ หรือบนระเบียง แต่ก็ไต้องกังวลไปค่ะ แม้ว่าจะมีพื้นที่เพียงเล็กๆ แต่ก็สามารถจัดเป็นสวนได้นะคะ โดยเรามีหลักในการจัดสวนแบบเล็กๆ มาฝากกันค่ะ

          1 คิดรูปแบบก่อนจัดสวน ก่อนอื่นเลยเราจะต้องคิดเอาไว้ก่อนว่าเราอยากจะได้สวนแบบไหน สไตล์อะไร อาจจะเป็นสวนแบบญี่ปุ่น บาหลี สวนอังกฤษ หรือสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ สวนมีน้ำตก หรือต่างๆ แล้วแต่จะจินตนาการ

          2 เลือกขนาดต้นไม้ เนื่องจากพื้นที่จำกัด เมื่อคิดแบบสวนได้แล้วก็ถึงเวลาที่จะไปเลือกต้นไม้มาจัดสวนกัน โดยให้เลือกต้นไม้ที่มีลักษณะโตช้า และมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ไม่เช่นนั้นต้นไม้ก็จะเต็มพื้นที่เสียก่อนที่คุณจะได้จัดองค์ประกอบอื่นๆ ลงไป หากต้องการเป็นไม้พุ่มก็ต้องเลือกทรงพุ่มที่แคบ เพื่อไม่ไปบดบังต้นไม้อื่น

          3 เลือกสีเพื่อสร้างจุดเด่น ต้นไม้แต่ละชนิดก็จะมีสีของใบ และดอกที่แตกต่างกันออกไป การเลือกสีต้นไม้จึงต้องมีทั้งแบบสีเข้ม และสีอ่อนเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ และสีที่สว่างกว่าก็จะกลายเป็นจุดเด่นได้ แต่หากเป็นไม้ดอก ก็สามารถเลือกสีได้หลากหลาย

          4 ดูความทนทานของต้นไม้ ถ้าหากเป็นการจัดสวนบนระเบียงยิ่งจะต้องใช้ต้นไม้ที่มีความทนทานต่อแดดและลมสูง เพราะบนระเบียงจะต้องเจอกับแดดและลมอยู่เกือบทั้งวัน หากใช้ต้นไม้ที่ชอบความชื้นอาจจะตายได้

          5 ไม่ควรใช้หญ้า ด้วยพื้นที่จำกัด ควรปูพื้นสวนด้วยหินจะดีกว่าเนื่องจากดูแลง่ายกว่า แต่หากต้องการให้มีพื้นที่สีเขียวบ้างก็อาจใช้หญ้าหนวดปลาดุก หรือหนวดปลาดุกแคระก็ได้ค่ะ

          6 เทคนิคการเลือกใช้ไม้ใบ เพื่อให้ได้สวนที่มีความสมดุล ดูแล้วเป็นธรรมชาติที่สุดควรเลือกต้นไม้ที่มีใบต่างขนาดกันสามขนาด คือมีใบใหญ่ ใบกลาง และใบเล็ก จัดวางให้ผสมผสานกัน จะช่วยให้สวนดูสวยมากขึ้น

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ www.thaieditorial.com

Article01

          ด้วยพื้นที่ที่มีจำกัดอยู่ในปัจจุบันทำให้หลายคนต้องจัดสวนไว้ในอาคาร หรือไว้ในบ้าน เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับตัวเอง และสำหรับคนที่รักต้นไม้ ก็มักจะมีต้นไม้ปลูกอยู่ในบ้านเสมอ แต่ต้นไม้ที่ปลูกในบ้านนั้นมักไม่ค่อยเจริญเติบโตสวยงามอย่างที่ต้องการ นั่นก็เนื่องมาจากการดูแลที่ไม่ถูกต้องนั่นเอง และถ้าใครอยากให้ต้นไม้ในร่มเติบโตสวยงามเราก็มีวิธีการดูแลต้นไม้ในร่มมาฝากกันค่ะ

          1 เรื่องแสงแดด ต้นไม้มีหลายประเภททั้งที่ชอบแสงแดด และไม่ชอบแสงแดด ดังนั้นถ้าหากต้องการปลูกต้นไม้ในร่มก็ต้องเลือกแบบที่ไม่ต้องการแสงมากนัก และควรจัดวางต้นไม้ให้โดนแสงแดดบ้าง ไม่ใช่อยู่แต่ตรงมุมที่แดดส่องไม่ถึง แม้จะมีการเปิดไฟแล้วก็ตาม

          2 เรื่องการรดน้ำ ถือเป็นอีกสิ่งที่สำคัญของต้นไม้เพื่อใช้ในการเจริบเติบโต จะต้องมีการรดน้ำแบบพอเหมาะ เนื่องจากต้นไม้ในร่มมักปลูกในกระถาง หากมีน้ำมากเกินไปจะทำให้น้ำขังและทำให้รากเน่า และต้นไม้ก็จะตายได้ จึงต้องควบคุมปริมาณน้ำให้ดี อย่าให้มากหรือน้อยเกินไป

          3 ขนาดของกระถาง เป็นตัวกำหนดว่าต้นไม้จะเจริญเติบโตได้ดีแค่ไหน เนื่องจากต้นไม้จะต้องหยั่งรากลงในดินดูดสารอาหารขึ้นมาเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต แต่ต้นไม้ที่อยู่ในกระถางมีพื้นที่จำกัด จึงทำให้หาอาหารได้ไม่เต็มที่เท่าไรนัก หากกระถางเล็กเกินไป แต่ถ้ากระถางใหญ่เกินไปก็จะทำให้น้ำขังอยู่มาก จนทำให้รากเน่าได้อีก จึงต้องเลือกกระถางให้เหมาะสมและดูแลเรื่องการระบายน้ำของกระถางให้ดีด้วย

          เพียงเท่านี้ต้นไม้ในร่มก็จะสามารถเติบโตสวยงามอยู่ในกระถางได้แล้วล่ะค่ะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ www.thaieditorial.com